java

>ยินดีต้อนรับเข้าสู่ blog ของพิมพการ์ กาน้อย
  • หน้าแรก
  • ร้านอาหารเมืองพัทยา
  • สถานที่ท่องเที่ยว
  • การท่องเที่ยวเมืองพัทยา
  • ประวัติผู้จัดทำ
  • เขียนโดย Mr.Darasak ที่ 18:53 0 ความคิดเห็น ส่งอีเมลข้อมูลนี้ BlogThis! แบ่งปันไปที่ Twitter แบ่งปันไปที่ Facebook วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2555

    วันจันทร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2556

    ร้านอาหารเมืองพัทยา

    ร้านอาหารเมืองพัทยา

    ร้านริมผา ลาพินพัทยา

    ร้านริมผา ลาพินพัทยา
    ที่พัทยามีร้านอาหารที่ชื่อว่า "ริมผา ลาพิน" อยู่ (เป็นที่รู้จักกันสั้น ๆ ว่าร้านริมผาพัทยา) โดยที่ชื่อเสียงของร้านนี้ก็มาจากการที่ตั้งอยู่ริมหน้าผาสมชื่อเลย ลูกค้าของร้านยังสามารถมองเห็นทัศนียภาพรอบ ๆ ได้ด้วย ทำให้ได้บรรยากาศที่ดีมากและหาได้ยากที่จะเห็นร้านแบบนี้ในเมืองไทย ที่ร้านริมผานั้นมีอาหารหลายชนิดให้เราได้ลิ้มลอง ไม่ว่าจะเป็น อาหารแบบยุโรป อาหารไทย หรืออาหารซีฟู้ดทั่วไป แม้ว่าร้านริมผาจะถูกลิสอยู่ในรายชื่อของร้านอาหารสำหรับนักท่องเที่ยวพัทยา แต่ที่จริงร้านไม่ได้อยู่ในเมือง แต่อยู่ตรงนาจอมเทียนซึ่งก็ไม่ไกลจากเมืองเกินไปนัก

    ริมผา ลาพิน เพิ่งเปิดเมื่อไม่กี่ปีมานี้โดยคุณโอ๊ตและคุณลาพิน เพราะว่าครอบครัวของคุณลาพินมีที่ดินอยู่ในบริเวณนั้นมานานแล้ว แต่ยังไม่ได้ใช้ทำอะไร คุณโอ๊ตและคุณลาพินจึงคิดว่ามาเปิดร้านอาหารน่าจะดีกว่า และร้านอาหารริมหน้าผาแบบนี้ยังเป็นร้านในฝันของพวกเค้าด้วย

    ที่ร้านริมผา มีที่นั่งที่ยื่นออกไปตรงริมผา 3 ระดับด้วยกัน และเพราะที่นั่งบริเวณนี้ สามารถมองเห็นวิวของทะเลได้ชัดเจน มันจึงเป็นสิ่งช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีมาก ๆ โดยเฉพาะช่วงพระอาทิศกำลังจะตก จึงไม่น่าแปลกใจเลยแขกผู้มาเยือนร้านริมผานี้ มักจะเลือกที่นั่งริมทะเลด้วย หากใครคิดจะไป ให้จองไว้ก่อนจะดีกว่า แต่อย่างไรก็ตามเพราะร้านริมผาเป็นร้านที่เรียกว่าระดับสูงขึ้นมาจากปกติ ราคาอาหารจึงแพงกว่าร้านทั่วๆ ไปด้วยเช่นกัน

    ร้านริมผาพัทยา นั้นตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองพัทยา ประมาณ 25 กิโลเมตร ใกล้ ๆ กับโรงแรมแอมบาสเดอร์และรงแรมโอเชียน มาริน่า โดยที่วันจันทร์ - ศุกร์ร้านจะเปิดตั้งแต่ 16.00 ไปจนถึง 24.00 แต่หากเป็นวันเสาร์ - อาทิตย์ร้านจะเปิดตั้งแต่ 15.00 และปิดเที่ยงคืนเหมือนเดิม


    ร้านอาหารแดงดำพัทยา

    ร้านอาหารแดงดำพัทยา
    ร้านอาหารแดงดำพัทยาเป็นร้านที่ขายอาหารทั่วไปที่มีสูตรเด็ดแตกต่างและมีรสชาติเยี่ยม จัดได้ว่าเป็นความทั่วไปที่ไม่ธรรมดาทีเดียว ร้านนี้จะเหมาะกับคนที่ไม่รู้ว่าจะกินอะไรดี หรือคนที่มาเป็นกลุ่มมีความต้องการกินอาหารแตกต่างกัน เพราะร้านนี้มีรายการอาหารหลากหลายมาก แต่ที่เด่น ๆ ก็จะมีเย็นตาโฟแดงดำ มัสมันไก่ (มีทั้งแบบเป็นกับข้าว และแบบราดข้าว) ผัดไทย เป็นต้น การบริการที่ดีของพนักงานก็ค่อนข้างดีด้วย แต่ยังไงก็ตามราคาจะแพงกว่าราคาทั่วไปขึ้นมาหน่อยนะ ร้านจะอยู่ที่พัทยากลางใกล้ ๆ กับที่ทำการไฟฟ้าและบริษัททีโอที พัทยา

    ร้านอาหารแดงดำเป็นร้านที่เหมือนกับว่าจะจับทุกกลุ่มลูกค้า เพราะเป็นร้านที่ครอบคลุมแทบทุกอย่างเลยจริง ๆ ตั้งแต่เมนูอาหารให้เลือกมากมาย ที่มีทั้ง ก๋วยเตี๋ยว ข้าวราดแกง อาหารตามสั่ง ราดหน้า โจ๊ก อาหารประเภทที่เป็นกับข้าว ของหวาน เป็นต้น ความครอบคลุมยังไม่ใช่แค่นั้นเพราะว่าร้านอาหารแดงดำยังเป็นร้านที่เปิดตั้งแต่เช้า ไปจนถึงตีสองเลยทีเดียว (มีพนักงานทำงานสองกะ เพื่อลดความเหนื่อล้ามากเกินไป) เรียกได้ว่าทางร้านสามารถจับกลุ่มลูกค้าได้ทั้งทคนทั่วไป และนักท่องราตรีด้วย

    ร้านนี้ก็มาได้ง่าย ๆ เพราะว่าร้านตั้งอยู่ติดกับถนนพัทยากลางเลย คือถ้าขับรถจากถนนสุขุมวิทเข้ามามางพัทยากลาง ให้ตรงเข้ามาจนผ่านบิ๊กซี เอ๊กตร้าพัทยา (คาร์ฟูเก่า) มาหน่อย จะเจอแยกไฟแดงที่มีบริษัททีโอทีพัทยาอยู่หัวมุม ซึ่งพอผ่านไปแดงมาก็จะเจอร้านแดงดำแล้ว (อยู่ทางฝั่งขวามือเหมือนกับทีโอที)
     
     
     

    ร้านปูเป็น หาดจอมเทียน

    ร้านปูเป็น หาดจอมเทียน
    ร้านปูเป็นคืออีกหนึ่งร้านอาหารทะเลในพัทยาที่มีชื่อเสียงมาก รสชาติอาหารจัดจ้าน และสามารถชมบรรยากาศริมทะเลได้ ร้านปูเป็นนี้มีขนาดใหญ่มาก ซึ่งมีจำนวนโต๊ะหลายสิบโต๊ะด้วยกัน ทั้งฝั่ง Out-door ที่ติดทะเล และ In-door ที่อยู่ภายใต้อาคารไม้ ผู้คนที่ชอบนั่งติดริมทะเลมักจะมากันเยอะช่วงเย็น ๆ เพราะนอกจากบรรยากาศยามเย็นจะสวยงามแล้ว แดดยังไม่แรงอีกด้วย ร้านปูเป็นตั้งอยู่เกือบสุดหาดจอมเทียนเลย อีกประมาณ 200 เมตรก็สุดแล้ว

    เมื่อราว ๆ เกือบ 30 ปีที่แล้ว ในตอนที่เริ่มก่อตั้งร้าน ร้านปูเป็นแห่งนี้ยังไม่มีชื่อร้าน และร้านมีขนาดเล็กมาก มีโต๊ะเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น แต่ด้วยการนำปูม้าเป็น ๆ มาให้ลูกค้าเลือกนั้น ทำให้ลูกค้าประทับใจ และจึงยึดเอาสิ่งนี้มาตั้งชื่อร้าน "ปูเป็น" นี้ ปัจจุบันร้านปูเป็นจะมีรูปจำลองปูขนาดยักตั้งอยู่หน้าร้าน ซึ่งร้านก็มีจำนวนโต๊ะเยอะมากแล้ว ลูกค้าสามารถเลือกว่าจะนั่งด้านนอกหรือด้านใน และในส่วนของด้านในนั้นยังมีกุ้ง หอย ปู ปลา เป็น ๆ เอาไว้เป็นวัตถุดิบในการทำอาหารสด ๆ ให้ลูกค้าได้ทานอีกด้วย

    บรรยากาศของร้านอาจจะไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก แต่ก็อยู่ในระดับที่โอเคเพราะตั้งอยู่ติดทะเลนั่นเอง แต่หากเลือกนั่งโต๊ะที่อยู่ติดทะเลเลยบรรยากาศจะดีกว่า ยิ่งช่วงเย็น ๆ ด้วยก็ยิ่งได้ใจกับการมานั่งกินอาหารริมทะเลจริง ๆ ส่วนราคานั้นก็อยู่ในระดับทั่วไป ไม่แพงไปจากร้านอื่น ๆ ในพัทยา

    ร้านตั้งอยู่ที่เกือบสุดหาดจอมเทียนพัทยา เพราะฉะนั้นจึงหาง่ายมาก ๆ ซึ่งเราสามารถขับรถเรียบหาดจอมเทียนไปเลยได้ ซึ่งจะเจอร้านปูเป็นอยู่ทางซ้ายมือ (แต่ไม่แนะนำให้รถที่โหลดเยอะ ๆ มาทางนี้ เพราะเนินกั้นถนนชะลอความเร็วนั้น ค่อนข้างสูง อาจจะขูดได้) ให้เข้าไปอีกทางหนึ่งจะดีกว่า (ผ่านเข้ามาทางร้านลุงไสว)

     










     

    อาหารเมืองพัทยา

    วันจันทร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2556

    สถานที่ท่องเที่ยว

    อาร์ต อิน พาราไดซ์ Art in Paradise

    อาร์ต อิน พาราไดซ์ Art in Paradise
    อาร์ต อิน พาราไดซ์ (Art in Paradise) แน่นอนว่าเป็นจุดท่องเที่ยวพัทยาที่ได้รับการกล่าวถึงมากที่สุด เพราะว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะสามมิติแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย อีกทั้งเป็นที่ ๆ ผู้เข้ามาเยี่ยมชมสามารถมีส่วนได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการโพสท่าถ่ายรูปหรือจับต้องภาพจิตกรรมฝาผนัง ผิดกับพิพิธภัณฑ์ที่เราเห็นได้ทั่วไปอย่างชัดเจน ดังนั้นแล้ว Art in Paradise จึงเหมาะกับนักท่องเที่ยวทุกเภททุกวัย โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่เข้ามาแล้วจะต้องร้องว้าวกันซะทุกคน สิ่งสำคัญมากอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ที่นี่ได้รับความนิยมมากก็คือ ทำเลที่ตั้ง เพราะตั้งอยู่ตรงใจกลางเมืองพัทยาเลย

    อาร์ต อิน พาราไดซ์ เปิดเมื่อช่วงเดือนเมษายนปี 2555 นี้เอง โดยมีผู้ก่อตั้งเป็นชาวเกาหลี ชื่อว่าคุณ ชิน เจ ยอล (Shin Jae Yeoul) ซึ่งใช้งบประมาณในการลงทุนสร้างสรรค์พิพิธภัณฑ์แห่งนี้กว่า 50 ล้านบาท ในพื้นที่กว่า 5,800 ตารางเมตร ภายในอาคารจัดเป็นห้องแสดงภาพกว่าสิบห้อง อาทิ เช่น ห้องใต้สมุทร ห้องป่าดึกดำบรรพ์ ห้องทิวทัศน์ธรรมชาติ เป็นต้น การสร้างพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ขึ้นมา ก็เพื่อที่ว่าจะทำให้ศิลปะเป็นที่แพร่หลายต่อประชาชนทุกกลุ่ม ได้มีความ สนุก เพลินเพลิน และมีความประทับใจในการเที่ยวชมผลงานที่ช่างศิลป์สร้างขึ้นมาอย่างยากลำบากนั่นเอง

    อย่างที่บอกไปแล้วว่า ในการเที่ยวชมผลงานต่าง ๆ ของภาพฝาผนังของที่นี่ นักท่องเที่ยวสามารถมีส่วนร่วมได้อย่างเต็มที่ เพราะรูปสามมิติเหล่านั้นถูกออกแบบมาให้เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ซึ่งจะมีรูปภาพตัวอย่างในการโพสท่าเล่นกับรูปอย่างไรด้วย แต่หากใครที่อยากครีเอทท่าใหม่ ๆ ก็จัดได้ตามความต้องการเช่นกัน และด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ผู้คนมาเที่ยวชมที่นี่ มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสกันทุกคน แต่อย่างไรก็ตามการถ่ายรูปกับภาพสามมิติเหล่านี้ ถ้าจะให้ออกมาเป็นที่ประทับใจมาก ๆ คงจะต้องหามุมถ่ายสวย ๆ ให้ภาพ 3D เหล่านั้นดูเหมือนจริงมากที่สุดด้วย

    สำหรับค่าใช้จ่ายในการเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ราคาก็อยู่ที่ 150 บาท สำหรับผู้ใหญ่ และ 100 บาท สำหรับเด็กที่สูงไม่เกิน 120 เซ็นติเมตร (ต่างชาติผู้ใหญ่ 500 บาท และเด็ก 300 บาท) เวลาเที่ยวชมก็ตั้งแต่ 09.00 - 21.00 (ขายบัตรถึงแค่ 20.00) ส่วนการเดินทางก็ไม่ยากเลยเพราะอยู่ใกล้ ๆ กับบิ๊กซี พัทยาเหนือ ดังนั้นเวลาขับรถมาทางเส้นสุขุมวิทก็เลี้ยวลงเส้นพัทยาเหนือ พอเลยโลตัสไปหน่อยจะมีป้ายบอกให้เลี้ยวซ้ายไปพัทยาเหนือ พอเลี้ยวเข้ามาก็ขับตรงไปหน่อยแล้วเลี้ยวขวา (ซอยที่สองใกล้ดิฟเฟอร์) ก็ถึงแล้ว ส่วนใครไม่ได้ขับรถมาก็นั่งรถสองแถวเส้นพัทยาสายสอง ตรงมาถึงปั๊มเชลล์ใกล้ ๆ บิ๊กซี ก็ลงรถได้เลย เพราะ Art in Paradise อยู่ถัดจากปั๊มไปเพียงซอยเดียวเท่านั้น

    ตลาดน้ำ 4 ภาคพัทยา

    ตลาดน้ำ 4 ภาคพัทยา
    ตลาดน้ำสี่ภาคพัทยานั้น เป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่สำหรับการช๊อปปิ้งสำหรับคนมาเที่ยวพัทยา ภายในจะมีการแสดงเกี่ยวกับวัฒนธรรมของแต่ละภาคในประเทศไทยด้วย จุดนี้น่าจะเป็นส่วนที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เช่นเดี่ยวกันกับตลาดน้ำอื่น ๆ เราจะพบแม่ค้าพ่อค้าขายของอยู่บนเรือเต็มไปหมด และหากเราอยากจะนั่งเรือชมรอบ ๆ ตลาดน้ำสี่ภาคนี้ก็ทำได้เช่นกัน การไปตลาดน้ำสี่ภาคนี้ไม่ยากเลย เพราะว่าอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองพัทยาเท่าไรและอยู่ติดกับสุขุมวิทเลย

    ตลาดน้ำสี่ภาคได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักของพัทยาไปแล้ว แต่ละวันมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมามากมายเลยทีเดียว กิจกรรม การแสดงของวัฒนธรรมไทย และสินค้ามากมายที่มีขายในตลาด เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ดี ปัจจุบันยังมีรถประจำทางบริการสำหรับตลาดน้ำสี่ภาค เพื่ออำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวด้วย

    ตลาดน้ำสี่ภาคนั้นถูกสร้างขึ้นมาภายใต้วัตถุประสงค์ของการนำเสนอขนบธรรมเนียนประเพนีของแต่ละภาคในประเทศไทย ทั้งเหนือ ใต้ กลาง และตะวันออกเฉียงเหนือ (กลางกับตะวันออกคงจะคล้าย ๆ กันจึงถูกรวมกันไป) ซึ่งจุดมุ่งหมายนี้รวมไปถึงวิธีการใช้ชีวิตของผู้คน กิจกรรมต่าง ๆ และสินค้าหลัก ๆ ของแต่ละภาคด้วย เพราะฉะนั้นตลาดน้ำพัทยาจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ

    เขาชีจรรย์

    เขาชีจรรย์
    เขาชีจรรย์อยู่ไม่ไกลจากเมืองพัทยาเท่าไรและมีชื่อเสียงมาก บางคนที่ยังไม่เคยมาพัทยาเลย แต่กลับเคยได้ยินคนอื่นพูดถึงเขาชีจรรย์มาบ้าง เพราะฉะนั้นที่นี่เป็นอีกที่หนึ่งที่น่าสนใจแน่นอน จุดเด่นของเขาชีจรรย์นั้นก็คือรูปพระพุทธรูปยักษ์ถูกแกะสลักอยู่บนหน้าผา โดยที่ขนาดของรอยแกะสลักนั้นสูง 109 เมตร และกว้าง 70 เมตรโดยประมาณ คนที่มาเยี่ยมเยียนที่นี่ มักจะไปเพราะอยากดูรูปแกะสลักด้วยแล้วก็อยากจะไปไหว้พระให้เกิดสิ่งดี ๆ ในชีวิตด้วย บริเวณรอบ ๆ หน้าผานั้นก็ยังมีลานกว้างและทะเลสาบกับสวนหินด้วย แต่นักท่องเที่ยวไม่ได้รับอนุญาติให้เข้าไปในสวนนะ ดูได้อย่างเดียว

    ในตอนแรกเขาชีจรรย์นั้นถูกระเบิดเพื่อวัตถุประสงค์ของการก่อสร้าง แต่พระญาณสังวรณ์ ได้คิดถึงการพัฒนารูปปั้นแกะสลักบนหินผา เพื่อเป็นเฉลิมพระเกียรติแก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติเป็นปีที่ 50 โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานนามของพระพุทธรูปว่า "พระพุทธมหาวชิรอุตโมภาสศาสดา"

    การแกะสลักพระพุทธรูปบนหน้าผานั้นมีหลายขั้นตอนด้วยกัน ในตอนแรกพระพุทธรูปได้รับการออกแบบด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ก่อน จากนั้นก็นำภาพที่ได้ทำการออกแบบมานั้นมาฉายลงบนหน้าผาด้วยแสงเลเซอร์ แต่การฉายแสงนั้นถูกทำเฉพาะตอนกลางคืนอย่างเดียว เนื่องจากมีความชัดเจนกว่าและจะมีเจ้าหน้าที่โรยตัวลงมาวาดภาพตามแสงเลเซอร์เหล่านั้น ส่วนในช่วงเวลากลางวัน เจ้าหน้าที่จะทำการปรับแต่งภาพที่วาดให้มีความถูกต้องมากขึ้น หลังจากขั้นตอนการวาดเสร็จสมบูรณ์แล้ว การแกะสลักจึงค่อยเริ่มทำ

    เขาชีจรรย์เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 6 โมงเช้าถึงหกโมงเย็น และในเวลาเยี่ยมชมสถานที่นั้น นักท่องเที่ยวควรเชื่อฟังป้ายเตือนต่าง ๆ โดยเฉพาะการเตือนไม่ให้เข้าใกล้ผามากเกินไป เพราะนักท่องเที่ยวอาจจะได้รับบาดเจ็บได้หากบังเอิญมีหินตกลงมา